นานแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน
ฉันยังไม่ได้เล่าให้เธอฟังว่า ต้นแก้วที่เคยออกดอกขาวพร่างให้สูดกลิ่นยามดึกต้นนั้น
มันตายแล้ว
กิ่งก้านไร้ชีวิตของมันมองเห็นเป็นเส้นสีดำในยามดึก
ไม่มีกลิบดอกเล็กๆ ปลิวเข้ามาปูพื้นระเบียงห้องของฉันอีก
แต่ฉันยังจำกลิ่นแก้วได้ดี
หลายปีที่ผ่านมา เราเคยเขียนจดหมายถึงกันมากมาย
ทุกฉบับมีเรื่องราวในชีวิตของเราแฝงอยู่
บางประโยคมีเสียงหัวเราะของฉัน
บางย่อหน้ามีน้ำตาของเธอ
บางบรรทัดมีเรื่องเหลวไหลที่เราต่างเคยกระทำ
เราเคยเขียนจดหมายบางฉบับด้วยดินสอ นานวันเนื้อความก็ลบเลือนไป
แต่ฉันยังจดจำเรื่องเล่าเหล่านั้นได้ดี
เธอยังจำเพลงที่ฉันเคยร้องให้ฟังได้ไหม
....เราและเธอ
อยู่ไกลแสนไกลกัน
ความผูกพันเหมือนดังว่าติดตรึง
ใจเจ้าลอยคล้อยตามสายลมตึง
บอกคิดถึงเฝ้ารำพึงกับใบไม้......
เธอยังจำเพลงที่ฉันเคยร้องให้ฟังได้ไหม
....เราและเธอ
อยู่ไกลแสนไกลกัน
ความผูกพันเหมือนดังว่าติดตรึง
ใจเจ้าลอยคล้อยตามสายลมตึง
บอกคิดถึงเฝ้ารำพึงกับใบไม้......
ทุกวันนี้ยังมีใครส่งความคิดถึงกันทางไปรษณีย์อยู่บ้างนะ
เราอ่านอีเมล์ของใครต่อใครทุกวัน
อ่านเรื่องราวข่าวสารต่างๆ ผ่านอักษรประดิษฐ์สารพัดรูปแบบ
เธอยังจำลายมือของฉันได้หรือเปล่า
สมัยเด็ก ๆ เวลาฉันเล่าเรื่องอะไรให้ใครฟัง หรือพูดอะไรที่ต้องการสื่อความรู้สึกมากมาย
ฉันชอบใช้คำว่า ร้อย ....ร้อยนั้น ร้อยนี้ ทั้งที่ความจริงอาจมีไม่กี่สิบ
คงเป็นอารมณ์อยากโม้แบบเด็กๆ หรือเราอาจจะเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้
คงเป็นอารมณ์อยากโม้แบบเด็กๆ หรือเราอาจจะเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้
หิวจังเลย อยากกินขนมสักร้อยอัน
หนูมีเพื่อนเล่นที่โรงเรียนตั้งร้อยคน
คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันมาตั้งร้อยปีแล้ว
........
เมื่อก่อน เราเขียนจดหมายคุยกันมากมาย
ฉันไม่เคยนับจำนวนเลยสักครั้ง
เช่นเดียวกับไม่เคยนับความคิดถึง
แต่ถ้ามีใครถาม ฉันคงตอบว่า ฉันเขียนมาแล้วเป็นร้อยฉบับ
และในวันนี้
วันที่คิดถึงกลิ่นแก้วหอมเย็นที่เคยลอยกรุ่นมากับสายลมยามดึก