ทึ่งในความละเอียดอ่อนและอดทนของคนถ่ายทำสารคดี
แต่ที่ทึ่งกว่า (หลายเท่า) คือความรักและความพยายามของพ่อกบ
สงสารลูกอ๊อด ดูไป ลุ้นไป เฮ้อ ใจจะขาด
สมัยเด็กๆ จำได้ว่าทางเดินไปโรงเรียนหน้าแล้งมีฝูงลูกอ๊อดตกคลั่กอยู่ในแอ่งน้ำเล็กๆ ที่ใกล้แห้ง
เราเคยเอาใบไม้มาช้อนลูกอ๊อดทีละ 5-6 ตัว วิ่งไปปล่อยอีกแอ่งหนึ่งที่ใหญ่กว่า
ทำจนหมดทุกตัว ไม่เว้นแม้แต่ตัวที่แห้งตายอยู่ เพราะหวังว่ามันโดนน้ำแล้วจะฟื้น
(ย้อนกลับไปก็ทึ่งในความพยายามของตัวเองเหมือนกัน เพราะตอนนั้นยังไม่สิบขวบเลย)
แล้วก็เลยไปโรงเรียนสาย T_T)
แต่ที่ทึ่งกว่า (หลายเท่า) คือความรักและความพยายามของพ่อกบ
สงสารลูกอ๊อด ดูไป ลุ้นไป เฮ้อ ใจจะขาด
สมัยเด็กๆ จำได้ว่าทางเดินไปโรงเรียนหน้าแล้งมีฝูงลูกอ๊อดตกคลั่กอยู่ในแอ่งน้ำเล็กๆ ที่ใกล้แห้ง
เราเคยเอาใบไม้มาช้อนลูกอ๊อดทีละ 5-6 ตัว วิ่งไปปล่อยอีกแอ่งหนึ่งที่ใหญ่กว่า
ทำจนหมดทุกตัว ไม่เว้นแม้แต่ตัวที่แห้งตายอยู่ เพราะหวังว่ามันโดนน้ำแล้วจะฟื้น
(ย้อนกลับไปก็ทึ่งในความพยายามของตัวเองเหมือนกัน เพราะตอนนั้นยังไม่สิบขวบเลย)
แล้วก็เลยไปโรงเรียนสาย T_T)
ตอนนั้นไม่เห็นพ่อกบหรือแม่กบแถวนั้นสักตัว ไม่รู้ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เพราะมันแห้งจนดินแตกไปหมดทั้งถนนและทุ่งหญ้า
ชอบสารคดีเรื่องนี้
(ถึงบางคนจะบอกว่า กบมันก็แค่ทำไปตามสัญชาตญาณ ไม่ใช่รักเริกอะไรร้อก...ก็เถอะ แหม คุณรู้ได้ไง? ในเมื่อคุณก็ไม่ใช่กบ)
ธรรมชาติมีความลับอีกมากมายที่เรายังไม่รู้
(และอาจไม่มีวันรู้)
No comments:
Post a Comment